สวัสดีครับนำทุกท่านมารู้จักบริษัทที่คนชอบมากที่นั่นเป็นบริษัทที่มีรายได้สูง เหมาะสำหรับคนที่ิ
มองหาบริษัทที่ดีเเละมีคุณภาพ สำหรับใครที่ไม่รู้จับเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับบริษัททั้ง 50 บริษัท
ที่มีมาตรฐาน
บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านรสชาติหรือคุณภาพของอาหาร การรักษาความสะอาดในครัวเรือน เสื้อผ้าและร่างกาย โดยมีทั้งผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่นิยมไปทั่วโลก และผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า “ยอดนิยม” ของคนไทยมากมาย
สำหรับพนักงาน Unilever จะได้รับสวัสดิการที่นอกเหนือจากเงินเดือนประจำแล้ว ยังมี เบี้ยเลี้ยงต่างจังหวัด ค่าทำฟัน 4,000 บาท ต่อปี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล (ครอบคลุมถึงคู่สมรสและบุตร) สิทธิในการกู้บ้าน กู้เงินฉุกเฉิน ทุนการศึกษาปริญญาโท วันหยุดลาพักร้อน 12 วัน และ กิจกรรมพิเศษประจำปี
Unilever เป็นบริษัทที่กำหนดวัตถุประสงค์อย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ปัจจุบันวัตถุประสงค์ของเราเรียบง่ายแต่ชัดเจนคือ การทำให้ลูกค้ามีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน
เราเชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจไม่ควรทำร้ายผู้คนและโลกของเรา ด้วยเหตุนี้เองเราจึงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจและวิธีการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของ Unilever (USLP) เป็นความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าเพื่อบรรลุผลจากการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัท เปิดตัวในปี 2010 โดยเป็นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านแบรนด์ที่กำหนดวัตถุประสงค์ ลดต้นทุนทางธุรกิจ ลดความเสี่ยง และช่วยให้เราสร้างความไว้วางใจ
แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของ Unilever
แผนการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของ Unilever กำหนดขึ้นเพื่อแยกการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทออกจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เพิ่มผลกระทบเชิงบวกทางสังคมของเรา แผนของเรามีเป้าหมายสำคัญสามประการที่ต้องบรรลุ ซึ่งอยู่ภายใต้ ความมุ่งมั่นและเป้าหมายเก้าประการซึ่งครอบคลุมประสิทธิภาพด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในห่วงโซ่คุณค่า เราจะทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งเน้นพื้นที่ที่เราสามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDG)
การเติบโตเพิ่มขึ้น
จากการวิจัยของเราแสดงว่ากว่าครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคทั้งหมดได้ซื้อสินค้า หรือต้องการซื้อสินค้าที่มีความยั่งยืน นี่คือสาเหตุที่เราพัฒนาแบรนด์ ‘ที่ดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืน’ ซึ่งมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนต่อข้อกังวลด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งของแผน USLP
ขณะนี้เรามี 26 แบรนด์ที่ดำรงอยู่ได้อย่างยั่งยืนประกอบด้วย Dove, Lipton, Hellmann's และ Seventh Generation โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของ Unilever ที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อ
ลดต้นทุน
ลดปริมาณของเสียและลดการใช้พลังงาน วัตถุดิบและทรัพยากรธรรมชาติ เราได้สร้างประสิทธิภาพและลดต้นทุน ขณะเดียวกันก็เผชิญความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้อยลงการเพิ่มประสิทธิภาพเชิงระบบนิเวศมีส่วนทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่า 600 ล้านยูโรตั้งแต่ปี 2008
มีความเสี่ยงน้อยลง
การดำเนินงานอย่างยั่งยืนช่วยให้เรามีความมั่นใจเกี่ยวกับซัพพลายเชนในอนาคต โดยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดหาวัตถุดิบ56% ของวัตถุดิบทางการเกษตรของเรามีแหล่งที่มาที่ยั่งยืนภายในสิ้นปี 2018
สร้างความเชื่อมั่นมากขึ้น
การกำหนดให้ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ช่วยให้เราอยู่ข้างเดียวกับผู้บริโภค และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมกับเราเราเป็นบริษัทผู้ว่าจ้างผู้จบการศึกษา FMCG จำนวนเป็นอันดับหนึ่งในประมาณ 50 ประเทศ
ผลลัพท์ที่ชัดเจนจากการเรียนรู้ผ่านบทเรียน
เราได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากแผนการดำเนินชีวิตอย่างยั่งยืน เรารู้ว่ามีส่วนช่วยเหลือให้ธุรกิจเติบโตเนื่องจากเราเห็นผู้บริโภคจงใจเลือกใช้แบรนด์ของเรา ช่น Dove, Hellmann's, Ben & Jerry's และ Omo
เรายังได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ใช้การได้และไม่ได้ และเราจะปรับเปลี่ยนต่อไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือความสามารถในการโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายนอกบริษัท ซึ่งเราไม่สามารถควบคุมได้โดยตรง
เรามองหาแนวคิดและวิธีการใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องที่จะสามารถวางแนวทางห่วงโซ่คุณค่าในวงกว้าง เราทราบว่าการทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายมากมายด้านความยั่งยืน และเราจะมุ่งเน้นเรื่องนี้มากขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้า
ในฐานะบริษัทเรามองไกลไปถึงอนาคต เปลี่ยนแปลง และปรับทิศทางเพื่อให้ก้าวล้ำไปหนึ่งก้าว
นำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราอยากจะเห็น
ที่มาของเเหล่งข้อมูล
https://www.unilever.co.th/sustainable-living/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น