สวัสดีครับนำทุกท่าน เข้าสู้บริษัทที่ทุกคนชอบมากที่นั่นเป็นบริษัทที่มีรายได้สูง เหมาะสำหรับคนที่ิ
มองหาบริษัทที่ดีเเละมีคุณภาพ สำหรับใครที่ไม่รู้จับเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับบริษัททั้ง 50 บริษัท
เทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทยักษ์ใหญ่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่มีสาขาเกือบทั่วทุกมุมโลก ประสบผลสำเร็จอย่างมากจนกลายเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก และยังเป็นผู้นำที่คอยสร้างสรรค์นวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ให้กับวงการอิเล็กทรอนิกส์ ตัวผลิตภัณฑ์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เช่น iPhone ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี
นอกจากหน้าที่ที่ต้องทำ และเงินเดือนแล้ว “สวัสดิการ” ที่พนักงาน Apple จะได้รับคือ อาหาร-เครื่องดื่มฟรี รถรับส่ง การช่วยเหลือเรื่องการเดินทางในช่วงวันหยุดพักร้อน ความยืดหยุ่นเรื่องเวลาทำงาน การรักษาพยาบาล ประกันอุบัติเหตุ โปรแกรมการออกกำลังกาย และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะสถานที่ทำงานที่พนักงานจะผ่อนคลายอยู่ตลอดเวลา
ล่าสุดทางเว็บไซต์ Siampod ได้ออกมารายงานถึงตัวเลขรายได้และกำไรรวมตลอดปี 2017 ของบริษัทแอปเปิ้ล เซาท์ เอเชีย (ประเทศไทย) ว่าในปีที่ผ่านมา แอปเปิลประเทศไทยทำรายได้ทั้งหมด 52,223 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 771 ล้านบาท ซึ่งถือรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ๆ แต่กำไรกลับลดลง
ซึ่งข้อมูลที่รายงานมาจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD – Department of Business Development) โดยมีตัวเลขย้อนหลังตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2017 จากกราฟด้านล่างพบว่า ในปี 2017 กำไรลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2013 ซึ่งถ้านำกำไรมาเทียบกับปี 2016 พบว่าในปี 2017 ลดลง 3.87%
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงรายได้ละกำไรโดยรวมของแอปเปิลประเทศไทย ไม่ได้มีการแยกแยะว่ารายได้มาจากผลิตภัณฑ์ใดบ้าง ต้องมาคอยดูกันว่าแอปเปิลจะแก้สถานการณ์นี้อย่างไร และถ้า Apple store (TH) มาเปิดในไทยจริง ๆ ยอดขายโดยรวมจะเพิ่มการปัจุบันหรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไป
1 เมษายน พ.ศ. (ค.ศ. 1977)
วันก่อตั้งบริษัทแอปเปิล
"สตีฟ พอล จอบส์" (Steven Paul Jobs) "สตีฟ วอซเนียก" (Steve Wozniak) และ "โรนัล เวย์น" (Ronald Wayne) วิศวกรคอมพิวเตอร์ ร่วมกันก่อตั้งบริษัทแอปเปิล (Apple Computer Inc.) ที่คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย ด้วยเเนวคิดการปฏิวัติธุรกิจคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในยุค 70 แต่เพียง 12 วันต่อมา "โรนัล เวย์น" ก็ตัดสินใจถอนหุ้นออกจากบริษัท ด้วยทัศนคติและแนวคิดในเนื้องานที่ไม่สอดคล้องกัน
ชื่อ "Apple Computer Inc." ถูกใช้มานานกว่า 30 ปี ก่อนจะเปลี่ยนเป็น "Apple Inc." ในปี 2007 เพื่อสะท้อนถึงการก้าวเข้าสู่ตลาดอิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่สำหรับผู้บริโภค ที่นอกเหนือจากการมุ่งเน้นพัฒนาคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันบริษัทแอปเปิลเป็นบริษัทมหาชน มีสำนักงานอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ผลิตชิ้นงานฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ เช่น แมคอินทอช ไอพอด ไอโฟน เป็นต้น
จาก, http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=13344&t=news
ที่มาของชื่อบริษัทแอปเปิล
เหตุผลที่ "สตีฟ จ๊อบส์" เลือกชื่อ "Apple" นั้น คือ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่เขาชอบแล้ว คำว่า "Apple" เมื่อเขียนลงในสมุดโทรศัพท์แล้ว ยังเป็นคำที่มาก่อน "Atari" อันเป็นชื่อบริษัทเก่าที่เขาเคยทำงานอยู่ด้วย และชื่อ Apple นี้ยังให้ความหมายถึงความเรียบง่ายอีกด้วย
วิวัฒนาการของโลโก้แอปเปิล
•The Newton Crest (1976)
"รอน เวนน์" หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท ก่อนที่เขาจะถอนตัวออกมาจากบริษัท ได้ทำการออกแบบโลโก้ให้แก่บริษัทเป็นรูปของ "เซอร์ ไอแซค นิวตัน" นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ และมีลูกแอปเปิลที่กำลังจะตกลงบนหัวของเขา มีประโยคเขียนกำกับว่า “Newton… A Mind Forever Voyaging Through Strange Seas of Thought … Alone.”
•The Rainbow Logo (ปี 1976-1998)
บริษัท Rigis McKena ได้ถูกจ้างให้ออกแบบโลโก้ใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น จนได้เป็นรูปผลเเอปเปิ้ลสีขาวดำแทน แต่ด้วยความคล้ายคลึงกับมะเขือเทศและเชอรี่ นักออกแบบจึงต้องเพิ่มลูกเล่นลงไปเป็นรอยกัด ที่จะทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วคิดถึงผลแอปเปิลได้ในทันที นอกจากนี้คำว่ากัด (Bite) ในภาษาอังกฤษยังพ้องกับคำว่าไบต์ (Byte) ซึ่งก็คือหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์อักด้วย
"สตีฟ จ็อบส์" อยากให้โลโก้มีสีสันมากกว่านี้ เพื่อให้สอดคล้องกับคอมพิวเตอร์ที่สามารถแสดงผลเป็นสีสันได้ คือ "Apple II" ที่กำลังจะเปิดตัวในขณะนั้น นักออกแบบจึงเพิ่มแถบสีสายรุ้งเข้าไป คือ เขียว เหลือง ส้ม แดง ม่วง ฟ้า (ตัดสีน้ำเงินออก) และใช้เป็นโลโก้บนเครื่อง Apple II เป็นเครื่องแรก
.jpeg)
•The Monochrome Logo (ปี 1998 – ปัจจุบัน)
การเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ของแอปเปิลมาพร้อมกับแคมเปญ "Think Different" เนื่องจากว่าแบรนด์แอปเปิลได้กลายเป็นที่จดจำของตลาด ดังนั้นการชูโลโก้แอปเปิลให้โดดเด่นในสินค้า และโฆษณาต่างๆ จึงเป็นสิ่สำคัญมาก
เนื่องจากโลโก้แอปเปิลสีรุ้งเข้ากันได้ยากกับสินค้า iMac ในปัจจุบัน และดูไม่เหมาะสมเมื่อนำโลโก้มาขยายเป็นขนาดใหญ่ แอปเปิลจึงเลิกใช้โลโก้สีรุ้ง และนำโลโก้สีดำล้วน ขาวล้วน หรือสีเงินมาใช้แทน
โลโก้แอปเปิลปัจจุบัน จาก, https://www.macthai.com/2013/02/02/did-you-know-why-apple-logo-has-bite-historn
ผลงานสร้างชื่อแอปเปิล
•ปี 1976 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกที่ประดิษฐ์จากโรงรถออกมาขายในชื่อ "Apple I" ที่ราคาจำหน่าย 666.66 เหรียญ ในจำนวนและระยะเวลาจำกัด และเปิดตัวครั้งแรกต่อประชาชนที่ "Homebrew Computer Club" โดยถูกขายเป็นเมนบอร์ด (มี CPU, RAM, และชิปแสดงข้อความขั้นพื้นฐาน)
•ปี 1977 ได้ผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ "Apple II" ออกสู่ตลาด และทำยอดจำหน่ายสูงสุดให้กับบริษัท ณ ขณะนั้น ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งวงการไมโครคอมพิวเตอร์ และเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับไมโครคอมพิวเตอร์ที่เกิดมาตามหลังทั้งหมด ทำให้แอปเปิลกลายเป็นผู้ผลิตรายสำคัญในวงการอุตสาหกรรมเครื่อง คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
จาก, https://en.wikipedia.org/wiki/File:Apple_II_IMG_4212.jpg1980
•ปี 1984 มีการเปิดตัวเครื่องแมคอินทอช (Macintosh) เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกที่มีส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิก ที่ได้รับความนิยมจากตลาดและสร้างเม็ดเงินให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก ความ
จาก, https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Macintosh_portable.jpg
•ปี 1991 Apple จึงได้เปิดตัวเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาขนาดเล็กในชื่อ PowerBook ซึ่งถือว่าเป็นต้นตระกูลของคอมพิวเตอร์แล็ปทอปในปัจจุบัน การเปิดตัว นั้นถือได้ว่าประสบความสำเร็จและสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าบริษัทได้อย่างมาก เรียกว่าเป็นช่วงขาขึ้นของบริษัทเลยก็ว่าได้
•ปี 1998 มีการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรุ่นใหม่ชื่อ iMac ที่สร้างความโด่งดังไปทั่วโลก ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค ถือเป็นการพลิกโฉมครั้งสำคัญของโลก ด้วยรูปลักษณ์และความสามารถที่โดดเด่น ส่งผลให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยสถิติ 800,000 เครื่องในเวลาเพียง 5 เดือนหลังออกขาย
•ปี 2001 Apple เริ่มให้ความสำคัญกับอุปกรณ์ที่ให้ความบันเทิง โดยได้เปิดตัว iPod เครื่องเล่นเพลงแบบพกพา ซึ่งเป็นสินค้าไลฟ์สไตส์ที่นอกเหนือไปจากคอมพิวเตอร์ และสร้างผลกำไรอย่างมหาศาลให้กับบริษัท
•ปี 2007 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการโทรศัพท์ เมื่อ Apple ได้เปิดตัว iPhone โทรศัพท์หน้าจอสัมผัสอย่างเต็มรูปแบบ ที่ทำให้กระแสสมาร์ทโฟนเริ่มเติบโตขึ้น
•ปี 2010 ถือกำเนิด iPad ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งยังเป็นใบเบิกทางสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า "แท็บเล็ต" อีกด้วย
เเหล่งข้อมุล https://www.trueplookpanya.com/blog/content/51402/-timhis-tim-itcom-it-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น